29 เม.ย. 2554

ตำนานเผ่าพันธุ์มนุษย์อุลตร้าแมน

บทที่1."ความอยู่รอด"
           ท่ามกลางจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล มีหมู่ดาว แกแลกซี่อยู่หมู่หนึ่ง มีชื่อว่า "แกแลกซี่เนบูล่าM78" ซึ่งประกอบขึ้นด้วยดวงดาวต่างๆ ประมาณ 69 ล้านดวง ในใจกลางของแกแลกซี่ เนบูล่า M87มีดวงดาวดวงหนึ่งที่ชื่อว่า"ดินแดนแห่งแสงสว่าง"หรืออีกชื่อหนึ่งที่เราเรียกว่า"ดาวอุลตร้า"อันเป็นถิ่นกำเนิดของ เผ่าพันธุ์อุลตร้า ที่เรารู้จักกันดี ดาวอุลตร้ามีขนาดใหญกว่าโลกมนุษย์ 60 เท่า อยู่ห่างจากโลกมนุษย์ สามล้านปีแสง มีพลเมืองอุลตร้าแมนอาศัยอยู่ 1แสน 8หมื่นล้านคน ย้อนหลังกลับไป 260,000 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่พลเมืองชาวอุลตร้าอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขทั้งดวงดาวและร่างกายพลเมืองชาวอุลตร้ามีลักษณะไมแตกต่างไปจากมนุาย์บนโลกของเรานี้
          แต่แล้ววันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดขึ้น ดวงอาทิตย์ของดาวอุลตร้าเกิดระเบิดขึ้นและแตกสลายดับไปเมื่อขาดดวงอาทิตย์ ส่งผลให้ดาวอุลตร้าเข้าสู่ความมืดมิด หนาวเย็นและอดอยาก พลเมืองของดาวอุลตร้าล้มตายไป มากกว่าครึ่งหนึ่งเมื่อเป็นดังนี้ ท่ามกลางผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่ ผู้นำคือ "ท่านผู้นำอาวุโสแห่งอุลตร้า" นักวิทยาศาสตร์ที่ปราเปรื่อง พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์ที่ยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่ ได้คิดค้นหาวิธีที่จะทำให้พลเมืองที่เหลือมีชีวิตอยู่รอดได้แล้วการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของชาวอุลตร้าก็คือการสร้างพลังงานความร็อนและแสงอาทิตย์เทียมขึ้น ด้วยการสร้างเครื่องปฏิกรณ์พลังงานพลาสม่า (Plasma Spark) ขึ้นมาทดแทนพลังงานจากดวงอาทิตย์  เครื่องปฏิกรณ์พลังงานพลาสม่า มีทั้งหมด5พัน เครื่อง ถูกกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ครอบคลุมทั่วทั้งทุกพื้นที่ของดาวอุลตร้า ตำแหน่งของเครื่องตั้งอยู่ที่ฐานใต้ดินที่ลึกลงไปจากพื้นผิวดาวแต่มีปล่องส่งพลังงานด้านล่างขึ้นสู่ด้านบนโดยตรงผ่านขึ้นไปยังชั้นบรรยากาศที่ครอบคลุมดาวทั้งดวงและพลังงานพลาสม่าทั้งหมดที่ขึ้นมาถึงชั้นบรรยากาศที่มี ความโค้งไปตามลักษณะดาว จะสะท้อนกลับลงมาทุกตารางนิ้งบนผืนดิน แผ่เป็นรัสมีกว้างครอบคลุมทั่วทั้งดวงดาว ให้ทั้งพลังงานแสงและพลังงานความร้อน ทดแทนดวงอาทิตย์ ดังนั้นจะเห้นได้ว่าไม่ว่าจะอยู่จุดไหนบนดาวอุลตร้า ก็จะได้รับพลังงานทั่วกัน
          สัญลักษณะที่สำคัญมาก ของดินแดนแห่งแสงสว่างซึ่งถือเป็นสิ่งแรก ที่ทุกคนเห็นภาพเวลานึกถึงดาวอุลตร้า คือ อุลตร้าทาวเวอร์ (Ultra Tower) หรือที่เรียกกันว่าหออุลตร้า ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นใจกลางเมือง มีรูปร่างคล้ายคบเพลิงขนาดใหญ่ ด้านบนมี "เปลวไฟอมตะ" ที่ไม่มีวันดับ ลุกโชตช่วงอยู่ตลอดเวลา เป้นสัญลักษณ์ที่แสดงความหมาย ให้เห็นว่าดาวอุลตร้า จะรุ่งเรืองอยู่คู่จักวาลตลอดไป

          ข้างล่างด้านในอุลตร้าทาวเวอร์ มีอุลตร้าคีย์ (หรือที่เรียกว่า กุญแจอุลตร้า) เสียบอยู่ที่ฐาน อุลตร้าคีย์นี้มีความสำคัญมากที่สุด เพราะจะเป็นเครื่องมือควบคุมวงโคจร ของดาวอุลตร้าให้โคจรได้เป็นปกติดังเดิม เหมือนเมื่อครั้งที่ยังมีดวงอาทิตย์อยู่ ถ้าหากอุลตร้าคีย์ ถูกดึงออกจากฐานไปแล้ว ดาวอุลตร้าจะหลุดออก นอกวงโคจรที่เคยเป้นมาทันที
          นอกจากนี้อุลตร้าคีย์ยังมีพลังอันมหาศาล ถ้าหากยิงพลังไปที่ดาวดวงใด จะสามารถทำลายดาว ทั้งดวงลงได้ทันที และด้านในอุลตร้าทาวเวอร์ จะมีอุลตร้าเบลล์ (ฺUltra Bell ) หรือระฆังอุลตร้า สัญญลักษณ์แห่งสันติภาพ และความมหัศจรรย์ เมื่อสั่นระฆังเหนือดาวดวงใดสามารถขจัดพลังด้านมืด ที่ปกคลุมดาวดวงนั้นอยู่ ดังที่เคยถูกนำมาใช้ครั้งหนึ่งกับโลกมนุษย์ของเรา แต่เนื่องจากอุลตร้าเบลล์อยู่ภายใต้เปลวไฟอมตะ อุลตร้าแมนธรรมดาจะไม่มีพลังพอที่จะลงไปนำขึ้นมาได้ต้องเป็นการรวมร่างของ 6 พี่น้องอุลตร้าเท่านั้น
          สภาพร่างกายเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยเหมือนมนุษย์ กลับกลายเป็นอุลตร้าแมนและจากการที่ชาวอุลตร้าได้ถูกอาบแสงพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ต่อเนื่องยาวนานถึง 200,000 ปี ชาวอุลตร้าทุกคนได้กลายสภาพร่างกายเป็น "ยอดมนุษย์" มีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม อย่างมหาศาล มีความเร็วมากขึ้นสามารถบินได้สามารถปล่อยพลังที่มีอยู่ในตัวออกเป็นลำแสงได้ในลักษณะต่างๆ ซึ่งเป็นผลมาจากพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ที่สะสมมาอย่างยาวนานในร่างกายนั่นเองจนในที่สุด พลเมืองชาวอุลตร้าทุกคนได้กลับกลายเป็น "ยอดมนุษย์" ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในปัจจุบัน  แต่จากการต่อสู้ในการรบครั้งนี้ ทำให้เจ้าพ่ออุลตร้าได้รับบาดเจ็บ แต่ได้พยาบาลสาวชาวอุลตร้าช่วยเหลือดูแลพยาบาลไว้ จนกลับหายเป็นปกติ
ต่อมา เธอผู้นั้นได้แต่งงานและเป็นเจ้าแม่อุลตร้า ผลจากการที่ดาวอุลตร้าโดนโจมตีในครั้งนี้ เจ้าพ่ออุลตร้าจึงมีความคิดที่จัดตั้งกองบัญชาการรักษาความสงบแห่งจักรวาลขึ้นมาเพื่อพิทักษ์รักษาความสงบในจักรวาล ปกป้องคุ้มครองผู้ที่อ่อนแอกว่า จากมนุษย์ต่างดาวและสัตว์ประหลาดที่ชั่วร้าย โดยมีเจ้าพ่ออุลตร้าเป็นผู้บัญชาการและมีโซฟี่เป็นรองผู้บัญชาการ และเพื่อความมีประสิทธิภาพในการปฎิบัติงาน ต่อมาโซฟี่ได้ตั้งกองป้องกันและปราบปรามแห่งจักรวาลขึ้น โดยมีโซฟี่เป็นหัวหน้ากองกำลังแห่งนี้ยังแยกย่อยออกไปเป็นหน่วยปราบปราม หน่วยลาดตระเวน หน่วยสื่อสารและหน่วยพยาบาล ทุกหน่วยที่กล่าวมานี้ มีหน้าที่กำจัดมนุษย์ต่างดาว และสัตว์ประหลาดที่ชั่วร้าย ที่สร้างความเดือดร้อนทุกแห่งในจักรวาล
มีการแบ่งสายงานการปฎิบัติหน้าที่ออกไปไกลถึง 7 แกแลกซี่ คือ
            1. แกแลกซี่ M25 อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 7 แสน 6 หมื่นปีแสง
            2. แกแลกซี่ P372 อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 7 แสน 8 หมื่นปีแสง
            3. แกแลกซี่ P25 อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 8 แสนปีแสง
            4. แกแลกซี่ เปรูเซอูส อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 8 แสน 5 หมื่นปีแสง
            5. แกแลกซี่ แอนโดรเมด้า อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 1 ล้าน 2 แสนปีแสง
            6. แกแลกซี่ แม็กเจลเลน อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 1 ล้าน 5 แสนปีแสง
            7. แกแลกซี่ ทางช้างเผือก อยู่ห่างจากดาวอุลตร้า 3 ล้านปีแสง ซึ่งโลกมนุษย์ของเราอยู่ใน 

                               แกแลกซี่ทางช้างเผือกนี้ด้วย

บทที่ 2 "กลายร่างเป็นอุลตร้าแมน"
             จากที่กล่าวมาแล้วนั้น เดิมทีพลเมืองชาวอุลตร้ามีรูปร่างเหมือนมนุษย์บนโลกทุกประการ แต่เนื่องมาจากการที่เครื่องปฎิกรพลังงานพลาสม่าทั้งหมด 5,000 เครื่องนั้น ไม่เพียงแต่ส่งพลังงานพลาสม่า (Plasma Spark) ออกมาแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ได้ปล่อย พลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์ (Differator Energy) ออกมาพร้อมๆ กันไปด้วย และพลังงานดิฟเฟอร์เรเตอร์นี้ ได้กลับกลายเป็นพลังงานพิเศษ มีคุณสมบัติแปรสภาพเปลี่ยนร่างกายของชาวอุลตร้าทั้งหมด ให้แข็งแรงขึ้น มีพลังพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อน


บทที่ 3 "ความเป็นมาของ....กองบัญชาการรักษาความสงบแห่งจักรวาล"
             เมื่อ 30,000 ปีมาแล้วที่ผ่านมา มนุษย์ต่างดาวเอมพิร่าได้บุกโจมตีดาวอุลตร้า โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะยึดครอง โดยได้นำกองทัพมนุษย์ต่างดาว และสัตว์ประหลาดเข้าโจมตีพลเมืองอุลตร้า ชาวอุลตร้าได้รวมพลังกันต่อสู้ โดยมีเจ้าพ่ออุลตร้าเป็นผู้นำและประสบผลสำเร็จ สามารถเอาชนะมนุษย์ดาวเอมพิร่าและเหล่าสัตว์ประหลาดได้อย่างเด็ดขาด แต่จากการต่อสู้ในการรบครั้งนี้ ทำให้เจ้าพ่ออุลตร้าได้รับบาดเจ็บ แต่ได้พยาบาลสาวชาวอุลตร้าช่วยเหลือดูแลพยาบาลไว้ จนกลับหายเป็นปกติต่อมา เธอผู้นั้นได้แต่งงานและเป็นเจ้าแม่อุลตร้า ผลจากการที่ดาวอุลตร้าโดนโจมตีในครั้งนี้

บทที่ 4 "ความสำคัญของหัวใจอุลตร้าแมน"
            เจ้าหน้าที่ของกองบัญชาการทุกคนจะถูกคัดเลือกให้ไปปฎิบัติหน้าที่ในที่ต่างๆ โดยที่เนื่องจากสภาพดาวต่างๆ หรือห้วงอวกาศที่ห้างไกลมีสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน สภาพร่างกายของเหล่าอุลตร้าแมน อาจไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศนั้นได้เป็นเวลานาน ดังนั้น อุลตร้าแมนทุกคนจึงจำเป็นต้องมี "ปุ่มเตือนพลัง" (Color Time) หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'หัวใจของอุลตร้าแมน" เป็นที่บอกระดับพลังงานเพราะว่าอุลตร้าแมนจะมีพลังเต็มที่เมื่ออยู่บนดาวอุลตร้า แต่เมื่อต้องออกนอกดินแดนแห่งแสงสว่างแล้ว อุลตร้าแมนจำเป็นต้องได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์ และเวลาที่อุลตร้าแมนจะสามารถดำรงร่างอยู่ได้บนดาวแต่ละดวงจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของดาวดวงนั้นๆ ต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น ในโลกมนุษย์ เนื่องจากโลกมนุษย์มีมลภาวะมากการดำรงร่างอุลตร้าแมนอยู่บนโลกมนุษย์ใช้พลังงานมหาศาลดังนั้น อุลตร้าแมนหลายๆ คนจะสามารถดำรงร่างอุลตร้าแมนอยู่บนโลกได้เพียงครั้งละ 3 นาทีเท่านั้นดังนั้นก่อนที่พลังงานจะหมดลงปุ่มเตือนพลังหรือหัวใจของอุลตร้าแมน จะกระพริบเตือนให้กลับคืนเป็นร่างมนุษย์บนโลกและสะสมพลังให้เต็มที่ก่อนที่จะสามารถแปลงร่างให้กลับเป็นอุลตร้าแมนได้อีกครั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น